วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ส่งต่อความดี...ทฤษฎีจรรโลงโลก

การเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนตามวิวัฒนาการของเทคโนโลยี ทำให้การสื่อสารมีความรวดเร็ว และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ได้ในปริมาณที่มากขึ้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเราต่างอ้าแขนรับเทคโนโลยีให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันก็ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการช่วย ขับเคลื่อนองค์กรในแง่ของการทำธุรกิจด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คงจะดีไม่ น้อยหากเราเลือกที่จะใช้ความล้ำสมัยของเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะในแง่ของการเป็นสื่อกลางเพื่อส่งต่อความรัก ความปรารถนาดีให้ แก่กันและกัน ธรรมชาติของธุรกิจเครือข่าย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันในแง่ของการทำ ธุรกิจเป็นโมเดลหลักอยู่แล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามา ช่วยเป็นสื่อกลางในการสื่อสารและการตลาด เพื่อให้เกิดการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วและทั่วถึงกันทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม คงจะเป็นที่น่าเสียดายหากมีการนำเอาความทันสมัยของ เทคโนโลยีไปใช้ในช่องทางที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดผลกระทบต่อบุคคลอื่น หรือธุรกิจ หรือบริษัทอื่นที่เป็นคู่แข่งขันกันทางด้านธุรกิจ เช่น ใช้เพื่อการปลุก ระดมให้เกิดการเข้าใจผิด พูดให้บริษัทอื่นหรือบุคคลอื่นเกิดความเสียหาย โดยการถ่ายทอดข้อมูลอันเป็นเท็จสู่สาธารณะ เช่น ผ่านเว็บไซต์ เว็บบล็อก การส่งข้อความ SMS หรือช่องทางอื่นใดที่ทำให้บุคคลอื่นเสียหายหรือเสียชื่อเสียง ซึ่งโดยส่วนตัวดิฉันมีความเชื่อว่าเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น หากพวกเราทุกคนมีความรัก ความปรารถนาดีต่อกันทั้งเพื่อนร่วมอาชีพ ต่อ บริษัทหรือต่อองค์กรที่เราอยู่ ถึงแม้ว่าเราจะออกจากบริษัทนั้น หรือออกจาก สายงานนั้นๆ แล้ว แต่เรายังคงมีความรัก ความรู้สึกดีที่ระลึกถึงอยู่ตลอดเวลา พร้อมที่จะส่งผ่านสิ่งดีๆ จากคนรุ่นหนึ่งสู่คนรุ่นต่อไป เพื่อส่งผ่านความ ดีให้แก่กันและกัน และที่สำคัญคือมีใจที่พร้อมจะให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นการไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่นทั้งทางกาย วาจา และใจ คือ แก่นของการส่งต่อความดีที่มีคุณค่ามากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของใดๆ เพราะหากพิจารณาให้ดีแล้วทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมาจากใจที่คิด วาจาที่พูดและ ส่งผลให้เกิดการกระทำ เมื่อใจคิดสิ่งใด ก็มักจะแสดงสิ่งนั้นออกมา ดังนั้น อาจจะพอกล่าวได้ว่า “ความคิด” คือสิ่งที่เป็นตัวกำหนดการกระทำ หากเรามีความคิดที่จะถ่ายทอดและส่งต่อความดีงาม แน่นอนว่า การกระทำย่อมเป็นไปตามที่เราคิด แต่เมื่อใดที่เรารู้สึกถึงความเกลียดชัง ความอยากเอาชนะ ไม่รู้จักการให้อภัย เมื่อนั้นเราก็จะแสดงออกซึ่งสิ่งที่ตนคิด บางคนถึงขั้นขาดสติ ขาดความยั้งคิดกว่าจะรู้ถึงผลจากการกระทำก็อาจจะสายเกินไปแล้ว...มาช่วยกันส่งต่อความดี ด้วยการไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคล อื่นกันเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อช่วยจรรโลงโลกของเราให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วยกันนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น: