วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ไขมันในเลือดสูง

ปัจจุบันคนไทยมีอายุยืนขึ้น ทำให้พบโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย ได้มากขึ้น โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และโรคอัมพาต โรคดังกล่าวมีสาเหตุจากการที่หลอดเลือดแข็งตัว (atherosclerosis)และหลอดเลือดตีบตัน ซึ่งพบได้เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น

ภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำใหเกิดหลอดเลือดแข็งตัว เราสามารถควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะนี้ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะถ้าเริ่มป้องกันหรือรักษาตั้งแต่อายุประมาณ 35-40 ปี จะช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และโรคอัมพาตในวัยชราได้อย่างมาก โดยทั่วไปการตรวจไขมันในเลือดจะตรวจสารต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. โคเลสเตอรอล (Cholesterol)

เป็นส่วนสำคัญของไขมันควคามหนาแน่นต่ำ โคเลสเตอรอลเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เอง และรับจากสารอาหารที่รับประทานเข้าไป โคเลสเตอรอลเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดเส้นเลือดแข็งตัว และตีบตัน สารโคเลสเตอรอลนี้จะมีมากในไขมันสัตว์ระดับปรกติในโลหิต ไม่ควรเกิน 200 มิลลิกรัม ต่อ 100 ลบ.ซม. และถ้าพบว่า สูงมากกว่า 200 มิลลิกรัม ต่อ 100 ลบ.ซม. ควรควบคุมและะรักษา จากการศึกษา พบว่า ถ้าลดระดับโคเลสเตอรอลลงได้ 1% จะทำให้โอกาสเกิดโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบลดลงถึง 2%

2. ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)

ไขมันชนิดนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากอาหารที่รับประททนเข้าไป และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการสังเคราะห์ในร่างกาย ในคนอ้วนระดับไตรกลีเซิร์ไรด์ มักจะสูงได้บ่อย ๆ ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ไขมันตัวนี้เป็นต้นเหตุของโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ ถ้าพบว่ามีระดับสูงมากหรือพบว่าสูงในคนที่มีโคเลสเตอรอลสูง เชื่อว่า โอกาสเป็นโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบเพิ่มขึ้นจึงควรรักษา

3. เอชดีแอล (High Density Lipoprotain ; HDL)

เป็นไขมันที่มีความหนาแน่นสูง มีหน้าที่จับไขมัน โคเลสเตอรอล ในกระแสเลือดออกไปทำลายที่ตับ ดังนั้นถ้าระดับ HDL นี้สูง จะมีผลทำให้โอกาสเป็นโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ และโรคหลอดเลือดลงโดยเฉพาะถ้าระดับ HDL สูงเกิน 50 มิลลิกรัม ต่อ ลบ.ซม. HDL จะสูงจากการออกกำลังกายและะจากยาลดไขมันบางชนิด

เมื่อท่านตรวจพบไขมันในเลือดสูง โดยระดับโคเลสเตอรอลสูงกว่า 200 มิลลิกรัม ต่อ ลบ ซ

ไม่มีความคิดเห็น: